COLLAGEN PEPTIDE

1. การดูดซึมในรูปแบบ ไดแปปไทด์
จากงานวิจัยพบว่า คอลลาเจนทั่วๆ ไปมีการดูดซึมต่ำ หากเทียบกับการดูดซึมในรูปแบบไดเปปไทด์ ซึ่งมีส่วนช่วยทำให้สารสกัดเอนไซม์เฉพาะตัวของ Collagen triple helix ให้อยู่ในรูปของ Collagen Peptide ซึ่งเป็นสารสกัดที่สามารถดูดซึมเข้าสู่ร่างกายได้อย่างรวดเร็ว และในที่สุด จะเปลี่ยนสถานะเป็นไดเปปไทด์ (Di-Peptide) ที่สามารถช่วยกระตุ้นการทำงานของเซลล์ผิว ข้อต่อ และกระดูกได้ทันที
ส่วนประกอบของกรดอะมิโน
คอลลาเจนประกอบไปด้วยสัดส่วนของกรดอะมิ โนถึง 18 ชนิด โดยมีกรดอะมิโนหลัก 3 ชนิด ได้แก่ Proline , Hydroxyproline และ Glycine รวมกันมากถึง 48.7 % ที่สามารถช่วยกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย

ไดเปปไทด์ ประกอบด้วยอะไร?
จากงานวิจัยพบว่า ไดเปปไทด์ คือ การเชื่อมต่อกันของกรดอะมิโนสองตัวจนกลายเป็นไดเปปไทด์คู่ ดังนี้

โพรลีน + ไฮดรอกซีโพรลีน (Pro-Hyp) หรือ P-O
ไกลซีน + ไฮดรอกซีโพรลีน (Hyp-Gly) หรือ O-G

ไดเปปไทด์คู่ ทั้ง 2 นี้ มีบทบาทสำคัญ คือ

กระตุ้นการสร้างเซลล์ ไฟโบรบลาสต์ (เซลล์ผิวที่ผลิตคอลลาเจนและอิลาสติน)
สังเคราะห์กรดไฮยาลูโรนิค (ช่วยเพิ่มความชุ่มชื่นแก่ผิว)
กระตุ้นการทำงานของเซลล์ข้อต่อและกระดูก

จากงานวิจัย Journal of Dermatology 2010 แสดงให้เห็นว่า หลังจากรับประทาน Collagen Peptides ไดเปปไทด์คู่ (Pro-Hyp) + (Hyp-Gly) จะตรงเข้าสู่เซลล์ผิวหนังชั้นใน (Fibroblast) ได้ดีกว่ากรดอะมิโนทั่วไป และไตรเปปไทด์ โดยเซลล์ผิวหนังชั้นใน (Fibroblast) จะสร้างคอลลาเจน อีลาสติน และกรดไฮยาลูโรนิค ที่ส่งผลให้ผิวมีความชุ่มชื้น เรียบเนียน ริ้วรอยร่องแก้ม และจุดด่างดำจางลงได้
ความพิเศษที่เหนือใครของ Collagen Peptides

คอลลาเจนทั่วไปสามารถดูดซึมในรูป แบบกรดอะมิโนต่างจาก Collagen Peptides ที่มีการดูดซึมแบบไดเปปไทด์ และไตรเปปไทด์ทำให้ร่างกายดูดซึมได้อย่างอย่างมีประสิทธิภาพมากกว่า ไม่มีกลิ่น ไม่มีรส ไม่มีสี รับประทานง่าย

ความสมบูรณ์แบบของคอลลาเจนเปปไทด์
คอลลาเจนทั่วไปดูดซึมในรูปแบบกรดอะมิโน เข้าสู่ร่างกายได้เพียง 50% แต่ Collagen Peptides สามารถดูดซึมในรูปแบบ ไดเปปไทด์ และไตรเปปไทด์ เข้าสู่ร่างกายได้มากถึง 62%
การดูดซึมคอลลาเจนเปปไทด์ในกระแสเลือด

ภายหลังจากการรับประทาน Collagen Peptides พบว่า “ไดเปปไทด์” สามารถซึมเข้าสู่กระแสเลือดได้มากกว่าไตรเปปไทด์
สรุป :
ไดเปปไทด์คู่ Hyp-Gly คือ สารประกอบหลักที่สามารถดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือดได้เร็วถึง 4.2 nmo/มิลลิพลาสมา ที่เข้าไปให้ผลโดยตรงต่อเซลล์

โพรลีน + ไฮดรอกซีโพรลีน (Pro-Hyp) หรือ P-O
ไกลซีน + ไฮดรอกซีโพรลีน (Hyp-Gly) หรือ O-G

2. ผลดีที่มีต่อสุขภาพผิว
ผลการศึกษาพบว่า:

เมื่อรับประทาน Collagen Peptides ปริมาณ 5 กรัมต่อวัน เป็นเวลา 4-8 สัปดาห์ สามารถป้องกันและช่วยลดรอยหมองคล้ำที่เกิดจากรังสี UV นอกจากนี้ คุณยังสามารถรับรู้ได้ถึงความนุ่มลื่น และความชุ่มชื้นมากขึ้นของผิว

ความสัมพันธ์ของ Collagen-derived Hyp กับการสังเคราะห์ Hyaluronan synthase (HAS) mRNA levels

Pro-Hyp ไดเปปไทด์ จากคอลลาเจนเปปไทด์ สามารถเพิ่มการสังเคราะห์กรดไฮยาลูโรนิค ได้ดีกว่าไตรเปปไทด์
Pro-Hyp ไดเปปไทด์ ปริมาณ 200 nmol/ml สามารถเพิ่มการสังเคราะห์กรดไฮยาลูโรนิคได้สูงกว่ากลุ่มทดลองที่มีการควบคุมประมาณ 3.8 เท่า

ผลจากการศึกษาพบว่า ผลิตภัณฑ์คอลลาเจนเปปไทด์ :
–    ปกป้องผิวจากการทำลายของแสงแดด
–      ทำให้ผิวชุ่มชื้น เปล่งประกายตลอดวัน
–      ช่วยให้ผิวเนียน ลื่น น่าสัมผัส
–      เติมเต็มร่องแก้ม ให้เนียนเรียบ
–      ลบเลือนริ้วรอย จุดด่างดำค่อยๆจางลงอย่างเป็นธรรมชาติ
–      ช่วยให้ผิวกระชับ และยืดหยุ่นขึ้น
–      เพิ่มการผลิตกรดไฮยาลูโรนิค และกระตุ้นไฟโบรบลาสต์ ในผิวหนังชั้นใน
–     เพิ่มความชุ่มชื้น และความยืนหยุ่นให้แก่ผิว
–     ช่วยลดการเกิดริ้วรอย

3. สุขภาพข้อต่อและกระดูก
การศึกษาวิจัยพบว่า คอลลาเจน สามารถ:
–    ยับยั้งการเสื่อมของคอนโดรไซต์ (Chondrocytes)
–    กระตุ้นการสร้างไกลโคสะมิโนไกลแคน (GAG) ที่ทำหน้าที่สร้างสารหล่อลื่นในข้อต่อ
บำรุงกระดูกให้แข็งแรง
–    ไดเปปไทด์คู่ Po , OG จะส่งผลโดยตรงต่อเซลล์ข้อต่อ และกระดูก Osteoclasts & Osteoblasts

ผลการวิจัยยังพบว่า Collagen Peptides สามารถป้องกันกระดูกอ่อน ข้อต่อ และเนื้อกระดูกไม่ให้ถูกทำลาย และยังช่วยลดอาการปวดเข่าจากการเสียดสีของกระดูก ซึ่งพบมากในผู้สูงอายุ และเมื่อทำการเอ็กซ์เรย์ พบว่าอาการต่างๆดังที่กล่าวมาแล้ว จะค่อยๆดีขึ้นอย่างต่อเนื่องหากบริโภค ปริมาณ 10 กรัมต่อวัน เป็นระยะเวลา 45 วัน นอกจากนี้ ไดเปปไทด์ยังสามารถช่วยเสริมสร้างกระดูกให้แข็งแรงได้อีกด้วย

ในร่างกายมีระบบการทำงานร่วมกันกับกระบวนการเมตาบอลิซึมของกระดูก ซึ่งสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 เซลล์ คือ

1. Osteoclasts มีหน้าที่ย่อยสลายกระดูก
2. Osteoblasts มีหน้าที่สร้างโปรตีน และคอลลาเจน

เซลล์ทั้ง 2 นี้ ต่างทำงานร่วมกันเพื่อสร้างความสมดุลให้กับมวลกระดูก (Bone Mass) เมื่อมีอายุ 30-40 ปี เมื่อเริ่มเข้าสู่วัยหมดประจำเดือน (Postmenopausal Osteoporosis) และเมื่อเข้าสู่วัยสูงอายุ (Senile Osteoporosis) การสร้างมวลกระดูกจะลดลง ซึ่งเป็นสาเหตุของภาวะกระดูกพรุนในมนุษย์

งานวิจัยพบว่า การรับประทานคอลลาเจนเปปไทด์ สามารถช่วยเสริมสร้างกระดูกให้แข็งแรงขึ้นได้ ไดเปปไท ด์คู่ Pro-Hyp มีหน้าที่กระตุ้นให้เซลล์ Osteoblasts สร้างชิ้นส่วนใหม่ของกระดูกเพิ่มมากขึ้นให้เพียงพอต่อความต้องการร่างกาย และกระตุ้นให้เซลล์ Osteoclasts ย่อยสลายกระดูกเก่า กล่าวคือเมื่อมวลกระดูกเก่าสูญเสียไป ก็จะมีมวลกระดูกใหม่เกิดขึ้นมาทดแทนอย่างต่อเนื่อง ไดเปปไทด์คู่ Pro-Hyp จึงช่วยให้การทำงานของกระบวนการ เมตาบอลิซึมในกระดูกทำงานได้อย่างสมดุล และมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นนั่นเอง

4. การรักษารอยแผลเป็น

Collagen Peptides สามารถรักษารอยแผลเป็น เห็นผลได้อย่างชัดเจน ทำการทดลองและวัดผลกับกลุ่มอาสาสมัคร แบ่งเป็น กลุ่มผู้ทดลองเพศหญิง จำนวน 13 คน อายุระหว่าง 35 – 50 ปี ทำการบริโภค Collagen Peptides ปริมาณ 10 กรัมต่อวัน แบ่งเป็น ตอนเช้า 5 กรัม และตอนเย็น 5 กรัม เป็นระยะเวลา 8 สัปดาห์ พบว่า รอยแดงของแผลเป็น มีขนาดเล็กลง จุดด่างดำค่อยๆจางลงอย่างต่อเนื่อง และกลุ่มอาสาสมัครถึง 75% ต่างพึงพอใจกับผลลัพธ์ที่ดีขึ้น

เปรียบเทียบปริมาณกรดอะมิโนที่มีในปลาธิราเปีย กับ ปลาทะเลชนิดอื่น
เปรียบ เทียบกรดอะมิโนสำคัญ อันได้แก่ โพรลีน และไฮดรอกซีโพรลีน ที่มีอยู่ในปลาธิราเปีย กับปลาทะเลชนิดอื่น พบว่า ปลาธิราเปียมีปริมาณโพรลีนและไฮดรอกซีโพรลีนมากกว่าปลาทะเลชนิดอื่น เช่น ปลาแซลมอล,ปลาโพลอก และ ปลาสแนปเปอร์ เป็นต้น

COLLAGEN PEPTIDE ตอบโจทย์คนอยากมีผิวสวยและรักสุขภาพ

ยุคนี้แค่ผิวขาวยังไม่พอแต่ต้องดูสุขภาพกายและสุขภาพผิวที่ดีด้วย  คอลลาเจนเป็นสารสำคัญที่อยู่ในความสนใจของผู้รักสุขภาพผิวมาระยะหนึ่งแล้วในประเทศไทย ถือว่าเป็นตัวเลือกหนึ่งที่ได้รับความนิยมจากผู้ที่อยากดูแลสุขภาพผิวและสุขภาพกาย ด้วยคุณสมบัติเป็นตัวช่วยเพิ่มความแข็งแรงให้กับร่างกายและมีส่วนช่วยฟื้นฟูผิวด้วย แต่เพราะมีให้เลือกซื้ออยู่หลากหลายประเภท จะหาข้อมูลก็ไม่แน่ใจว่าข้อมูลใดเท็จจริง ทำให้เกิดความกังวลเป็นธรรมดาที่จะเลือกซื้อคอลลาเจนแบบไหนที่ปลอดภัยต่อสุขภาพ

การเลือกซื้อจึงมีความสำคัญที่สุดสำหรับผลิตภัณฑ์อาหารเสริม นอกจากนั้นยังเกิดความไม่แน่ใจว่าจำเป็นต้องซื้ออาหารเสริมที่มีส่วนผสมของคอลลาเจนมารับประทานหรือเปล่า บทความนี้จึงจะมาคุยกันเกี่ยวกับข้อสงสัยต่าง ๆ  รวมถึงแนะนำอาหารเสริม collagen peptide 100% จากญี่ปุ่น

คอลลาเจนสำคัญแค่ไหน จำเป็นไหมที่ต้องซื้อผลิตภัณฑ์อาหารเสริมที่มี คอลลาเจน

จริงอยู่ที่ร่างกายผลิตคอลลาเจนอยู่แล้ว แต่เมื่ออายุเพิ่มขึ้นการผลิตโปรตีนนี้จะค่อย ๆ ลดลง คอลลาเจนเป็นโปรตีนชนิดหนึ่งที่สำคัญกับร่างกาย ทำให้ผู้ที่ต้องการอยากจะชะลอริ้วรอยที่เกิดขึ้นบนผิวเมื่ออายุเพิ่มขึ้นหรืออยากมีสุขภาพกายและสุขภาพผิวที่ดี การเลือกซื้อผลิตภัณฑ์อาหารเสริมที่มีส่วนผสมของคอลลาเจนมารับประทานจึงเป็นทางเลือกหนึ่งเพิ่มเติมจากการรับประทานอาหารและการออกกำลังกาย

 เลือกผลิตภัณฑ์อาหารเสริมที่มีส่วนผสมของคอลลาเจนอย่างไรให้ได้ผลดี

เป็นความกังวลของผู้ที่สนใจและอยากจะซื้อผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมนี้มารับประทาน เพราะไม่แน่ใจเรื่องคุณสมบัติผลที่จะได้รับกับความคุ้มค่าของเงินที่ต้องจ่าย การเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของคอลลาเจนที่มีคุณภาพผสมกับสารสกัดจากธรรมชาติอื่น หรือเป็นคอลลาเจน 100% เช่น ผลิตภัณฑ์อาหารเสริม คอลลาเจนเปปไทด์ 100% จากญี่ปุ่นที่ได้รับความนิยมในขณะนี้ ได้ผ่านการรับรองว่าปลอดภัยมาแล้วอย่างถูกต้อง ผลิตภัณฑ์อาหารเสริม COLLAGEN PEPTIDE เป็นคอลลาเจนเปปไทด์บริสุทธิ์ 100% และมีส่วนผสมของกรดอะมิโนมากถึง 18 ชนิด โดย 3 ชนิดหลัก คือ Glycine, Proline และ Hydroxyproline มีสัดส่วนถึง 48.7% มีบทบาทส่งเสริมและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนได้ดี

ทำไมต้องคอลลาเจนเปปไทด์

ปัจจุบันนี้ข่าวสารและข้อความโฆษณาอาจทำให้ผู้บริโภคตัดสินใจซื้อเร็วขึ้น ซึ่งผลที่ตามมาอาจไม่ได้อย่างที่ใจหวัง เพราะเกิดจากความไม่เข้าใจตั้งแต่แรก อย่างการเลือกซื้อคอลลาเจนกับผลิตภัณฑ์อาหารเสริมที่มีส่วนผสมของ คอลลาเจน ต่างกันอย่างไร แบบไหนที่ดี แล้วทำไมต้องเลือก

ในข้อเท็จจริงแล้ว คอลลาเจนทั่วไปมีการดูดซึมเพื่อซ่อมแซมส่วนต่างในร่างกายได้ต่ำกว่าเมื่อเทียบกับผลิตภัณฑ์อาหารเสริม คอลลาเจนเปปไทด์ 100% จากญี่ปุ่น ยิ่งร่างกายของแต่ละคนแตกต่างกัน ผลที่เกิดขึ้นก็จะแตกต่างกันไปด้วย การเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมช่วยในการดูดซึมได้ดีนั้น ย่อมเกิดผลดีและเห็นผลเร็วมากกว่า ก่อนตัดสินใจซื้อจึงควรเลือกคอลลาเจนที่ได้รับการทดสอบว่าปลอดภัยและมีคุณสมบัติพิเศษนี้ด้วย

อย่าง COLLAGEN PEPTIDE จะมีส่วนช่วยดูดซึมสารอาหารเข้าสู่ร่างกาย ช่วยกระตุ้นการทำงานของเซลล์ผิว ทำให้ผิวสุขภาพดีและส่งผลดีกับข้อต่อและกระดูกด้วย

รับประทานอาหารเสริม COLLAGEN กับสิ่งที่คนส่วนใหญ่มักสงสัย

ข้อสงสัยที่มักตั้งคำถามกันคือการรับประทานอาหารเสริมที่มี Collagen นั้น เมื่อหยุดรับประทานแล้ว ผิวจะคล้ำลงหรือเปล่า สำหรับการรับประทานคอลลาเจน หากรับประทานได้ต่อเนื่องโดยเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพย่อมเป็นผลดี เมื่อหยุดก็ไม่ได้ทำให้ผิวคล้ำเสีย แต่เมื่ออายุเพิ่มขึ้นร่างกายจะผลิตโปรตีนชนิดนี้น้อยลงเป็นธรรมดา

ผิวก็จะมีริ้วรอยเกิดขึ้นตามธรรมชาติ ในผู้ที่ต้องการอยากให้ผิวชุ่มชื้น ชะลอความแก่  คอลลาเจนจะเป็นตัวช่วยที่ดี ส่วนข้อสงสัยอีกเรื่องคือกินแล้วอ้วนไหม สิ่งที่ต้องสังเกตคือปริมาณน้ำตาลที่อยู่ในอาหารเสริม ยิ่งเป็นคอลลาเจนที่ไม่กลิ่นและไม่มีความหวานก็ยิ่งมีปริมาณน้ำตาลน้อย ไม่ทำให้อ้วน

คอลลาเจนเหมาะกับใครบ้าง

ผู้ที่ต้องการดูแลสุขภาพของผิวพรรณ ตอนนี้บางท่านอาจจะคิดว่าผิวสวยและมีสุขภาพดีอยู่แล้ว คงไม่จำเป็นที่จะต้องรับประทานคอลลาเจนเพิ่มเติม แต่สิ่งที่ดีที่สุดคือไม่จำเป็นต้องรอให้ผิวแย่ดูหมองคล้ำหรือมีริ้วรอยก่อน เพราะความสวยเป็นเรื่องที่รอไม่ได้อยู่แล้ว โดยเฉพาะผู้ที่ต้องการแก้ปัญหาเรื่องผิวแห้ง มีริ้วรอยหรือสีผิวไม่สม่ำเสมอ ผลิตภัณฑ์อาหารเสริม คอลลาเจนเปปไทด์ 100% จากญี่ปุ่น จะช่วยในการฟื้นฟูและแก้ปัญหาเหล่านี้ได้ โดยมีหลักการที่ว่าคอลลาเจนจะเป็นตัวช่วยสร้างกรดไฮยาลูรอนิค (Hyaluronic Acid) ซึ่งมีบทบาททำให้ผิวมีความชุ่มชื้นโดยสร้างสารชนิดหนึ่งที่เรียกว่าอิลาสติน (Elastin) ทำให้ผิวพรรณมีความยืดหยุ่นและเรียบเนียนขึ้น

ส่วนผู้ที่มีปัญหาของการปวดข้อเข่านั้น ผลิตภัณฑ์อาหารเสริม COLLAGEN PEPTIDE 100% จากญี่ปุ่น สามารถช่วยบรรเทาลดอาการปวดข้อเข่าได้ ซึ่งมีการทดลองให้ผู้ที่มีอาการทานต่อเนื่องเป็นเวลา 45 วัน พบว่ารู้สึกเจ็บเข่าน้อยลง โดยดูผลภาพ X-Ray จะเห็นว่ามีช่องว่างระหว่างข้อเข่ามากกว่าเดิมและมีอาการดีขึ้น โดยคอลลาเจนจะช่วยป้องกันกระดูกอ่อนและเนื้อกระดูกส่วนที่แข็งไม่ให้เสื่อมหรือถูกทำลายได้ง่าย

วิธีรับประทานผลิตภัณฑ์อาหารเสริม COLLAGEN PEPTIDE 100%

สามารถทานได้ง่ายโดยการผสมเข้ากับอาหารหรือเครื่องดื่มที่ทานอยู่แล้วตามปกติ เช่น ข้าว กับข้าว น้ำซุป หรือเครื่องดื่มโกโก้ กาแฟ นม เป็นต้น โดยใช้ช้อนตวงที่มีให้มาด้วย (1 ช้อนปริมาณ 5,000 มิลลิกรัม) โดยมีปริมาณการใช้งานตั้งแต่ ครั้งละ 1 ช้อน เพื่อการดูแลผิวพรรณ (1 ช้อนต่อวัน)

หากต้องการเสริมให้ผิวดูกระจ่างใสหรือส่งเสริมลดอาการปวดข้อให้เพิ่มการทานอีก 1 ช้อนในมื้ออาหารอื่นโดยห่างกัน 8-10 ชั่วโมง หรือทานก่อนนอน โดยจะเห็นผลใน 3-7 วัน ผิวจะรู้สึกว่าลื่นขึ้น และจะเห็นว่าผิวกระจ่างใสในเวลา 14-30 วัน เมื่อผ่านไป 1-2 เดือนจะเห็นว่ารอยหมองคล้ำต่าง ๆ มีการจางลง ส่วนริ้วรอยจะตื้นขึ้นในเวลา 2-3 เดือน โดยการทานอาหารเสริมคอลลาเจนเปปไทด์ 100% อย่างต่อเนื่อง (1 ช้อนต่อวัน)

นอกจากเลือกรูปแบบของคอลลาเจนแล้ว การรับประทานอย่างต่อเนื่อง ไม่ใจร้อนอยากเห็นผลที่ชัดเจนภายในวันสองวันก็เป็นสิ่งสำคัญ บางคนอยากจะเห็นผลปัจจุบันทันด่วนจนเครียดและคิดว่ารับประทานไปก็ไม่ได้ผล ซึ่งในความเป็นจริงแล้วต้องใช้เวลาระยะหนึ่ง ที่สำคัญต้องอย่าละเลยเรื่องการทานอาหารที่ดีมีประโยชน์ การดื่มน้ำและพักผ่อนให้เพียงพอ หลีกเลี่ยงแสงแดดแรง ๆ และมลภาวะ ก็จะช่วยส่งเสริมสุขภาพทุกด้านให้แข็งแรง ผิวสวย ดูมีสุขภาพดีได้อย่างยั่งยืน

เพิ่มสารอาหารบำรุงผิวพรรณ
ผิวสวย กระจ่างใส ด้วย Acerola Cherry
ผลไม้ยอดฮิต ในอาหารเสริม
วิตามินซีในรูปของอาหารเสริม
เคล็ดลับทาน วิตามินซี อย่างไรให้ได้ประโยชน์สูงสุด
ทานอาหารเสริมอย่างไรให้ปลอดภัยและดีต่อสุขภาพ
เบอร์รี่ มีประโยชน์มากกว่าที่คิด
อาหารเสริมสำคัญอย่างไร
เสริมอาหาร คือ อะไร?
17 อาหารที่มีคอลลาเจนจากธรรมชาติ
คอลลาเจนผง ทานยังไงให้เห็นผล
ดูแลผิวพรรณด้วย acerola cherry

คำเตือน:
– เด็กและสตรีมีครรภ์ ไม่ควรรับประทาน
– ควรระวังในผู้ที่แพ้อาหารทะเล
* ควรกินอาหารหลากหลายครบ 5 หมู่ ในสัดส่วนที่เหมาะสมเป็นประจำ
* ข้อมูลสำหรับผู้แพ้อาหาร  :  มีผลิตภัณฑ์จากปลา
* ไม่มีผลในการป้องกันหรือรักษาโรค

คอลลาเจน เปปไทด์ 5,000 มก. (ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร)
ส่วนประกอบสำคัญ:  collagen peptide 100%
วิธีรับประทาน:
วันละ 1 ช้อน (5 กรัม) ลงในน้ำธรรมดาหรือน้ำเย็น 150-200 มล. คนให้ละลายพร้อมดื่มได้ทันที
อายุการเก็บรักษา:
3 ปี นับจากวันที่ผลิต (ผ่านการตรวจ GMP กฎหมาย)

© Copyright - Trendy Health ประเทศไทยจำกัด | อาหารเสริม คอลลาเจน วิตามินซี รับสมัครตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ